วุ้นตาเสื่อม

13 พฤษภาคม 2563

แพทย์หญิง ปนียา ตปนียางกูร

 

"ระหว่างขับรถกลับบ้านอยู่ดีๆ ทำไมเรามองเห็นแสงอะไรแว็บๆ ขึ้นมาถี่ๆ ทำให้ใจคอไม่ค่อยจะดี จึงตัดสินใจหมุนพวงมาลัยไปที่โรงพยาบาลทันที พอได้คุยกับคุณหมอเท่านั้นแหละ อ๋อ…อาการแบบนี้ก็มีด้วย"

        คุณหมอปนียา ตปนียางกูร ที่โรงพยาบาล สมิติเวช ธนบุรี บอกว่า เราทำดีแล้วที่พอมีอาการก็รีบตัดสินใจมาพบหมอทันที ซึ่งอาการแบบที่เราเป็นนี้ เป็นหนึ่งในลักษณะอาการของ “วุ้นตาเสื่อม” ซึ่งการที่วุ้นตาเสื่อมลำพังตัวมันเองเสื่อมนั้น ไม่ได้มีอันตรายอะไร ไม่ได้มีผลกับการมองเห็น หากแต่ว่าการที่วุ้นตาเสื่อม วุ้นตาหดตัว อาจจะไปดึงรั้งจอตา ทำให้จอตาเกิดเป็นรูได้ และเมื่อไหร่ที่จอตาเป็นรู น้ำจากวุ้นตาก็จะเกิดการรั่ว ทำการกัดเซาะให้จอตาหลุดลอกออกมา เกิดอาการตาพร่ามัว หรือบางคนอาจถึงขั้นตาบอดได้

        บางคนอาจมีความรู้สึกว่า เวลาลืมตาขึ้นมาจะเห็นเป็นจุดดำๆ เหมือนมีหยากไย่ลอยไปลอยมา หรือในบางคนก็จะเห็นเหมือนแสงแฟลซแว็บๆ ขึ้นมา ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยได้สนใจอะไร ปล่อยไปนานๆ จนเกิดความเคยชิน จนบางครั้งไอ้จุดดำๆ ที่เคยเห็นก็พลันหลบไปจากแนวสายตา อาการก็จะดีขึ้นไปโดยปริยาย ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีของผู้นั้นไป เพราะอย่างที่คุณหมอบอกไง ว่าวุ้นตาเสื่อมน่ะไม่เป็นไร แต่ถ้าเมื่อไหร่มันไปทำให้จอตาเป็นรูก็งานเข้าล่ะทีนี้ เพราะฉะนั้น แม้วุ้นตาเสื่อมจะไม่ต้องรักษา แต่ก็ต้องคอยตรวจดูว่า วุ้นตาที่เสื่อมนั้นไปดึงรั้งทำให้จอตาเป็นรูหรือไม่ หากจอตาเกิดฉีกขาดเป็นรู ก็ต้องทำการรักษาปะผุ อุดรูรั่ว เพื่อไม่ให้น้ำวุ้นตาเซาะไปตามรูที่รั่วนั้น อันจะทำให้จอตาหลุดลอกออกมา จนตามัวและตาบอดได้

        ซึ่งการที่จะรู้ว่าจอตาเป็นรูหรือไม่ ก็ได้มาจากการตรวจดวงตานั่นเอง ใครที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป คุณหมอจึงอยากแนะนำให้ตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำทุกปี เพราะสาเหตุของการเกิดวุ้นตาเสื่อมนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ส่วนใหญ่แล้วจะพบในคนที่อายุมากขึ้น มีสายตาสั้นมากๆ  เคยเป็นโรคเบาหวาน หรือเคยมีอุบัติเหตุกระแทกแรงๆ ที่ตา ก็จะมีส่วนทำให้เกิดวุ้นตาเสื่อมได้

        ถ้าหากการเกิดวุ้นตาเสื่อมเป็นเพราะอายุที่มากขึ้น ก็คงจะไม่มีวิธีป้องกัน แต่การดูแลให้ตัวเองมีสุขภาพที่ดี ก็จะสามารถชะลอการเสื่อมของวุ้นตาลงได้ เพราะฉะนั้น หากรู้สึกว่าเห็นอะไรผิดปกติ มีอะไรลอยไปลอยมาอยู่ในลูกตา ควรรีบมาให้คุณหมอตรวจทันทีเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุ และให้การรักษาที่เหมาะสมหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุต่างๆ ที่จะส่งผลถึงดวงตา และใครที่มีโรคเรื้อรัง โดยเฉพาะโรคเบาหวาน  ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง จะต้องควบคุมให้ดี ที่สำคัญควรตรวจสุขภาพตาเป็นประจำทุกปี เพราะรู้เร็ว รักษาได้เร็ว ชะลอการเสื่อมได้มากขึ้น  ต้องดูแลกันให้ดี

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

เพิ่มเพื่อน

บทความโดย

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
พญ. ปนียา ตปนียางกูร
ความชำนาญ : แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาจักษุวิทยา