แพ็คเกจที่เกี่ยวข้อง
ไม่พบข้อมูล
08 พฤษภาคม 2566
ปัจจุบันการรักษาโรคหอบหืด หรือโรคหืด มียาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยควบคุมอาการได้ดีขึ้น ช่วยลดอัตราการนอนโรงพยาบาล รวมถึง ลดอัตราการเสียชีวิตได้ !!!
“ยาใหม่ๆ มีอะไรบ้าง เช่น ยาฉีดชีวโมเลกุล ช่วยคุมอาการโรคหืดได้ดีขึ้น และวัคซีนภูมิแพ้ โดยฉีดสารที่ผู้ป่วยแพ้เข้าร่างกายปริมาณน้อย และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนร่างกายทนทานต่อสารที่แพ้นั้นๆ”
โรคหอบหืดคืออะไร
ภาวะที่มีการตีบแคบของหลอดลม เกิดจากการที่หลอดลมอักเสบ และไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น สารก่อภูมิแพ้ การออกกำลังกาย การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ และการติดเชื้อทางเดินหายใจ รวมไปถึงสารระคายเคือง มลพิษต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ และฝุ่น PM
มักพบร่วมกับโรคภูมิแพ้อื่นๆ เช่น ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ เยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ แพ้อาหาร และมีประวัติพ่อ แม่ พี่ น้องเป็นโรคหืด
อาการของโรคหืด และอาการที่น่าสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคหืด
หายใจมีเสียงหวีด แน่นหน้าอก ไอ หอบ เหนื่อย มักจะเกิดขึ้นในเวลากลางคืนหรือตอนเช้า
อาการมากขึ้น หลังจากได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่น หืดกำเริบหลังจากเล่นกระโดดบนเตียง เกิดจากได้รับไรฝุ่นที่ฟุ้งจากเตียง การออกกำลังกาย หัวเราะมากๆ
อาการมักจะดีขึ้นหลังได้รับยาขยายหลอดลม
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
การตรวจสมรรถภาพปอด (Spirometry) เพื่อยืนยันความผิดปกติของสมรรถภาพปอด สามารถตรวจได้ในเด็กโตอายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไป
การตรวจวัดการอักเสบของทางเดินหายใจ (FENO; Fractional exhaled nitric oxide)
การตรวจหาสารก่อภูมิแพ้โดยการสะกิดผิวหรือการตรวจเลือด (skin test or blood test Specific IgE)
การตรวจภาพรังสีทรวงอก (chest X-ray) ช่วยในการแยกโรคอื่นที่อาการคล้ายโรคหืด
การตรวจดูเซลล์อักเสบจากเสมหะ
การตรวจความไวของหลอดลม (Methacholine challenge test)
การรักษาโรคหืด เป้าหมายหลักคือควบคุมอาการโรคหืดได้
การรักษาด้วยยา
ยาสูดพ่น ปัจจุบันยังคงเป็นยาหลักในการรักษาโรคหืด แบ่งเป็น 2 ชนิด
ยาสูดพ่นฉุกเฉิน จะใช้เฉพาะกรณีที่มีอาการหืดกำเริบเท่านั้น
ยาสูดพ่นควบคุมอาการ เพื่อควบคุมอาการ แนะนำให้ปรับยาภายใต้การดูแลของแพทย์
ยาอื่นๆ
ยารับประทานบรรเทาอาการ
ยาฉีดชีวโมเลกุล (Biologic agent) จะเลือกใช้กรณีที่หืดเป็นรุนแรง และไม่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยยาทั่วไป
ภูมิคุ้มกันบำบัด หรือวัคซีนภูมิแพ้ (Allergen Immunotherapy) จะเริ่มรักษาด้วยวิธีนี้ได้ หากสามารถควบคุมโรคหืดได้ดีแล้ว
รักษาโรคร่วมอื่นๆ เช่น เยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ไซนัส กรดไหลย้อน และความเครียด
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนปอดอักเสบ
การรักษาเพิ่มเติมโดยวิธีอื่นๆที่ไม่ใช่ยา
การให้ความรู้
ให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคหืด สาเหตุ อาการ การวินิจฉัย และการดำเนินโรค
หลักในการรักษาโรคหืดด้วยยาและการรักษาเพิ่มเติมโดยวิธีอื่นๆที่ไม่ใช่ยา โดยอธิบายให้ทราบถึงชนิดของยา และผลข้างเคียงของยาแต่ละชนิด และวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง
ผู้ป่วยสามารถรักษาตนเองเบื้องต้นตามแผนการดูแลตนเองของผู้ป่วยแต่ละราย
หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ควัน มลภาวะ เช่น การใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 และหลีกเลี่ยงกิจกรรม นอกอาคารในวันที่คุณภาพอากาศไม่ดี
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือโยคะ
หากท่านมีอาการที่สงสัยว่าอาจจะเป็นโรคหืด ต้องการรักษาโรคหืดที่ครบวงจร รวมถึงโรคหืดที่ยังควบคุมอาการไม่ได้ ทางสถาบันโรคภูมิแพ้สมิติเวช รพ.สมิติเวช ธนบุรี มีเครื่องมือในการวินิจฉัยที่ทันสมัย ครบถ้วน รวมไปถึงยารักษารูปแบบใหม่ที่สามารถรักษาโรคหอบหืดที่รุนแรงได้ ไม่ว่าจะเป็นยาฉีดชีวโมเลกุล รวมไปถึงวัคซีนภูมิแพ้
References:
Global Strategy for Asthma Management and Prevention (updated 2023) [Internet]. Available from: https://ginasthma.org/gina-reports/.
แนวทางการวินิจฉัย และรักษาโรคหืดในประเทศไทย สำหรับผู้ป่วยเด็ก (ฉบับสมบูรณ์) พ.ศ. 2564
แนวทางการรักษาโรคหืดสำหรับผู้ใหญ่ในประเทศไทย 2565
สอบถามเพิ่มเติม / นัดหมายพบแพทย์
บทความโดย