พญ.นันทนัช หรูตระกูล
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดานโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน
ปัจจุบันการรักษาโรคหอบหืด หรือโรคหืด มียาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ป่วยควบคุมอาการได้ดีขึ้น ช่วยลดอัตราการนอนโรงพยาบาล รวมถึง ลดอัตราการเสียชีวิตได้ !!!
“ยาใหม่ๆ มีอะไรบ้าง เช่น ยาฉีดชีวโมเลกุล ช่วยคุมอาการโรคหืดได้ดีขึ้น และวัคซีนภูมิแพ้ โดยฉีดสารที่ผู้ป่วยแพ้เข้าร่างกายปริมาณน้อย และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนร่างกายทนทานต่อสารที่แพ้นั้นๆ”
โรคหอบหืดคืออะไร
-
ภาวะที่มีการตีบแคบของหลอดลม เกิดจากการที่หลอดลมอักเสบ และไวต่อสิ่งกระตุ้น เช่น สารก่อภูมิแพ้ การออกกำลังกาย การเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ และการติดเชื้อทางเดินหายใจ รวมไปถึงสารระคายเคือง มลพิษต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ และฝุ่น PM
-
มักพบร่วมกับโรคภูมิแพ้อื่นๆ เช่น ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ เยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ แพ้อาหาร และมีประวัติพ่อ แม่ พี่ น้องเป็นโรคหืด
อาการของโรคหืด และอาการที่น่าสงสัยว่าอาจจะเป็นโรคหืด
-
หายใจมีเสียงหวีด แน่นหน้าอก ไอ หอบ เหนื่อย มักจะเกิดขึ้นในเวลากลางคืนหรือตอนเช้า
-
อาการมากขึ้น หลังจากได้รับสารก่อภูมิแพ้ เช่น หืดกำเริบหลังจากเล่นกระโดดบนเตียง เกิดจากได้รับไรฝุ่นที่ฟุ้งจากเตียง การออกกำลังกาย หัวเราะมากๆ
-
อาการมักจะดีขึ้นหลังได้รับยาขยายหลอดลม
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
-
การตรวจสมรรถภาพปอด (Spirometry) เพื่อยืนยันความผิดปกติของสมรรถภาพปอด สามารถตรวจได้ในเด็กโตอายุมากกว่า 6 ปีขึ้นไป
-
การตรวจวัดการอักเสบของทางเดินหายใจ (FENO; Fractional exhaled nitric oxide)
-
การตรวจหาสารก่อภูมิแพ้โดยการสะกิดผิวหรือการตรวจเลือด (skin test or blood test Specific IgE)
-
การตรวจภาพรังสีทรวงอก (chest X-ray) ช่วยในการแยกโรคอื่นที่อาการคล้ายโรคหืด
-
การตรวจดูเซลล์อักเสบจากเสมหะ
-
การตรวจความไวของหลอดลม (Methacholine challenge test)
การรักษาโรคหืด เป้าหมายหลักคือควบคุมอาการโรคหืดได้
-
การรักษาด้วยยา
-
ยาสูดพ่น ปัจจุบันยังคงเป็นยาหลักในการรักษาโรคหืด แบ่งเป็น 2 ชนิด
-
ยาสูดพ่นฉุกเฉิน จะใช้เฉพาะกรณีที่มีอาการหืดกำเริบเท่านั้น
-
ยาสูดพ่นควบคุมอาการ เพื่อควบคุมอาการ แนะนำให้ปรับยาภายใต้การดูแลของแพทย์
-
-
ยาอื่นๆ
-
ยารับประทานบรรเทาอาการ
-
ยาฉีดชีวโมเลกุล (Biologic agent) จะเลือกใช้กรณีที่หืดเป็นรุนแรง และไม่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยยาทั่วไป
-
ภูมิคุ้มกันบำบัด หรือวัคซีนภูมิแพ้ (Allergen Immunotherapy) จะเริ่มรักษาด้วยวิธีนี้ได้ หากสามารถควบคุมโรคหืดได้ดีแล้ว
-
รักษาโรคร่วมอื่นๆ เช่น เยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ไซนัส กรดไหลย้อน และความเครียด
-
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนปอดอักเสบ
-
-
-
การรักษาเพิ่มเติมโดยวิธีอื่นๆที่ไม่ใช่ยา
-
การให้ความรู้
-
ให้ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับโรคหืด สาเหตุ อาการ การวินิจฉัย และการดำเนินโรค
-
หลักในการรักษาโรคหืดด้วยยาและการรักษาเพิ่มเติมโดยวิธีอื่นๆที่ไม่ใช่ยา โดยอธิบายให้ทราบถึงชนิดของยา และผลข้างเคียงของยาแต่ละชนิด และวิธีการใช้ยาที่ถูกต้อง
-
ผู้ป่วยสามารถรักษาตนเองเบื้องต้นตามแผนการดูแลตนเองของผู้ป่วยแต่ละราย
-
-
หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ ควัน มลภาวะ เช่น การใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 และหลีกเลี่ยงกิจกรรม นอกอาคารในวันที่คุณภาพอากาศไม่ดี
-
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ หรือโยคะ
-
หากท่านมีอาการที่สงสัยว่าอาจจะเป็นโรคหืด ต้องการรักษาโรคหืดที่ครบวงจร รวมถึงโรคหืดที่ยังควบคุมอาการไม่ได้ ทางสถาบันโรคภูมิแพ้สมิติเวช รพ.สมิติเวช ธนบุรี มีเครื่องมือในการวินิจฉัยที่ทันสมัย ครบถ้วน รวมไปถึงยารักษารูปแบบใหม่ที่สามารถรักษาโรคหอบหืดที่รุนแรงได้ ไม่ว่าจะเป็นยาฉีดชีวโมเลกุล รวมไปถึงวัคซีนภูมิแพ้
สอบถามเพิ่มเติม / นัดหมายพบแพทย์
References:
-
Global Strategy for Asthma Management and Prevention (updated 2023) [Internet]. Available from: https://ginasthma.org/gina-reports/.
-
แนวทางการวินิจฉัย และรักษาโรคหืดในประเทศไทย สำหรับผู้ป่วยเด็ก (ฉบับสมบูรณ์) พ.ศ. 2564
-
แนวทางการรักษาโรคหืดสำหรับผู้ใหญ่ในประเทศไทย 2565